น้องๆหลายท่านคงประสบกับปัญหาที่ว่า ทำไมช่วงฤดูฝน รถที่เพิ่งจะล้างเสร็จจะต้องเปรอะเปื้อนอีกแล้ว ทำให้รำคาญกับคราบตะไคร่น้ำ หรือคราบดำที่ฝังที่แน่นตามพื้นหน้าบ้าน รอยเปื้อนห้องน้ำที่ซกมกเหลือเกิน หากทำคนเดียวนี้ถ้าจะออกกำลังชำระล้างด้วยตัวเองก็คงไม่เสร็จแน่ๆอุปกรณ์ที่หลายท่านมองหาอยู่เพื่อมาช่วยเหลืออุปสรรคเหล่านี้ คือ เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง แล้วต้องซื้อ อย่างไรดี แรงดันน้ำกี่บาร์ ถึงจะเหมาะกับงานที่เหมาะสม
ใช้ล้างรถอย่างเดียว
สำหรับท่านผู้อ่านบ้านไหนที่ใช้ล้างรถอย่างเดียว เช่น รถกระบะ ล้างรถเก๋ง จักรยาน มอไซด์ ฟอร์นิเจอร์ ล้างแอร์ และงานบ้านทั่วๆไป ก็ควรซื้อแค่แรงดัน 100 bar ก็เพียงพอต่อการมใช้งานแล้ว แต่ถ้ามีงบประมาณสักหน่อย ก็ดูสัก 120 bar เป็นต้น
ใช้เพื่อการล้างรถและพื้นหน้าบ้าน แถบไม่กว้างมาก
แนะนำแรงดันสัก 120 bar เหมาะกับการใช้งานไม่เกิน 1 ชั่วโมง
ใช้ล้างพื้นอย่างเดียว และใช้ล้างรถเป็นส่วนน้อย
แนะนำแรงดันประมาณ 130 bar ใช้งานติดต่อกันอยุ่ที่ 1 ชั่วโมงครึ่ง ถึง 2 ซ.ม.
จุดดีของเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง
ย่อนระยะเวลาในการทำงาน เช่น ล้างพื้น ล้างรถ ใช้งานง่าย และประหยัดการใช้น้ำลงไปถึง 50-60% ส่วนเครื่องที่เป็นระบบ auto stop ระบบเครื่องจะการหยุดทำงาน ในช่วงที่ไม่ได้กดไกปืนฉีดน้ำ โดยเราไม่ต้องเสียเวลาเดินไปเปิด-ปิดเครื่องบ่อยๆ เนื่องจากจะมีระบบตัดไฟตัดน้ำauto stopถ้าหากเครื่องร้อนมากเกินไป ท่านผู้อ่านหลายคนคงวิตกว่า ซื้อเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงเวลาเอาไปใช้งานและล้างรถยนต์ สีของรถยนต์จะเกิดอันตรายไหม จริงๆแล้ว อู่ล้างรถใช้แรงดันอยุ่ที่ 150-180 bar ซึ่งสเปค 100 - 130 bar ไม่เป็นอันตรายต่อสีรถแน่นอน
ข้อเสนอแนะการใช้เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง
• ควรปล่อยให้น้ำเข้าเครื่องสักพักก่อน แล้วค่อยเริ่มใช้งานเครื่อง เพื่อป้องกันเครื่องชำรุด
• หากเครื่องมีปัญหา เช่น เครื่องกระตุกควรหยุดใช้งานแล้วเปิดใหม่อีกครั้ง หากยังผิดปกติควรส่งเครื่องให้ช่างตรวจสอบ
• ขณะใช้งานอย่าให้สายส่งน้ำบิดงอเพราะเมื่อใช้งานแรงดันภายในสายจะมีมากอาจทำให้สายเสื่อมได้
• ขณะใช้งานจำเป็นต้องสวมเครื่องป้องกันดวงตา รองเท้านิรภัย และอุปกรณ์ปิดปาก-จมูก เพื่อป้องกันฝุ่นละอองและน้ำกระเด็นใส่
• ควรไล่แรงดันภายในสายหลังเลิกใช้งาน ด้วยการกดไกปืน 1 ครั้ง
เพียงเท่านี้ก็สามารถใช้งานเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงได้อย่างถูกวิธีและปลอดภัยไร้กังวลได้คะ
